CONDOM : ถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ ซึ่งจะเสื่อมสภาพได้เองเมื่อระยะเวลาผ่านไปแต่จะเสื่อมสภาพมากขึ้นหากมีการเก็บรักษาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพก่อนถึงระยะเวลาที่กำหนด จึงควรมีวิธีการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง

? ไม่ควรเก็บในที่มีความชื้นสูง ที่ร้อนหรือถูกแสงแดดหรือแสงฟลูออเรสเซนต์ส่องโดยตรง

? ไม่ควรเก็บถุงยางอนามัยไว้ในรถยนต์เพราะมีโอกาสได้รับความร้อนสูงเป็นเวลานาน

? ไม่ควรเก็บในที่ๆไม่เหมาะสม เช่น ในกระเป๋าสตางค์หรือกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เพราะจะมีการกดทับทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดได้ง่าย

ชนิดของถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัยแบ่งชนิดตามลักษณะผิวเป็น 2 ชนิด คือ ผิวเรียบและผิวไม่เรียบ นอกจากนี้ผู้ซื้อควรสังเกตข้อความอื่นๆว่าครบถ้วนและตรงกับความต้องการหรือไม่ เช่น ชื่อผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า รุ่นที่ผลิตเดือนปีที่ผลิต มีสารหล่อลื่นหรือสารฆ่าเชื้ออสุจิ มีสารแต่งกลิ่นหรือไม่ ฯลฯ ถุงยางอนามัยโดยทั่วไปทำจากน้ำยางธรรมชาติ น้ำยางสังเคราะห์ มีหลายสีให้เลือก มีหลายแบบ ทั้งแบบปลายเรียบมน ปลายเป็นกระเปาะหรือเป็นติ่งยื่นออกมาแบบชโลมด้วยสารหล่อลื่น และแบบที่เคลือบน้ำยาฆ่าตัวอสุจิ ถ้าแบ่งตามลักษณะผิว จะมีทั้งแบบผิวเรียบและผิวไม่เรียบ ถ้าแบ่งตามขนาด มีด้วยกันถึง 13 ขนาดตั้งแต่ขนาด 44 จนถึง 56 มิลลิเมตร ในประเทศไทยขณะนี้จำหน่ายขนาด 49 , 51, 52 ,53, 54 และ 56 มิลลิเมตร

เพื่อความมั่นใจมากขึ้นสำหรับการคุมกำเนิดและป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงได้มีการนำสารที่เรียกว่า “โนน็อกซินอล” (Nonoxynol) ซึ่งเป็นสารฆ่าเชื้ออสุจิเคลือบบนถุงยางอนามัย

ข้อดีของถุงยางอนามัยชาย

? ใช้คุมกำเนิด ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

? ใช้ได้โดยไม่ต้องปรึกษาแพทย์ ปลอดภัย ไม่มีอาการแทรกซ้อนหรืออาการข้างเคียง เห็นผลง่ายและป้องกันได้ทันที

? พกสะดวก น้ำหนักเบา หาซื้อได้ง่าย ราคาถูก ใช้เสร็จแล้วทิ้งได้เลย

? ช่วยยืดระยะเวลาหลั่งน้ำอสุจิได้ และไม่มีผลเสียต่อการเจริญพันธุ์เมื่อเลิกใช้

ข้อจำกัดของถุงยางอนามัยชาย

? ต้องสวมถุงยางอนามัยในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่

? ความรู้สึกในการใช้ถุงยางอนามัย บางคนใช้แล้วรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ แม้ว่าถุงยางอนามัยจะบางมาก

? ต้องจัดเก็บในที่เหมาะสม ไม่อยู่ในที่ร้อนจัดหรือแสงแดดส่องถึง และเมื่อใช้เสร็จแล้วควรทิ้งถุงยางอนามัยในที่เหมาะสม

? หากใช้ผิดวิธี อาจทำให้ถุงยางอนามัยแตกและมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

? ควรมีแหล่งบริการถุงยางอนามัยให้เข้าถึงได้สะดวก

การเลือกซื้อถุงยางอนามัย

อ่านฉลากก่อนซื้อ และก่อนเลือกใช้ สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา คือ

? บรรจุภัณฑ์อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่ชำรุดเสียหาย

? มีเครื่องหมาย อย.เพื่อให้ทราบว่าถุงยางอนามัยมีคุณภาพ ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือไม่

? เดือน ปี ที่หมดอายุ ก่อนซื้อต้องสังเกต เดือน ปี ที่หมดอายุของถุงยางอนามัยที่พิมพ์ไว้บนกล่องหรือซองบรรจุ หากเป็น เดือน ปี ที่ผลิต ให้คิดอายุการใช้งานโดยบวกเพิ่มไปไม่เกิน 5 ปี

? เลือกขนาดที่เหมาะสม และคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการ

สารหล่อลื่น

การผลิตถุงยางอนามัยโดยปกติแล้วจะมีการเติมสารหล่อลื่นด้วย

สารหล่อลื่นที่ใช้ได้ คือ สารหล่อลื่นชนิดน้ำ (Water-Based Lubricants) มีน้ำหรือซิลิโคน เป็นตัวละลาย เช่น กลีเซอรีน เค-วายเจลลี่

สารหล่อลื่นที่ไม่ควรใช้ คือ สารหล่อลื่นที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน (Oil-Based Lubricants) น้ำมันพืช น้ำมันแร่ เช่น ปิโตรเลี่ยม เจลลี่ น้ำมันทาผิว น้ำมันปรุงอาหาร ฯลฯ น้ำมันจะไปทำปฏิกิริยากับยาง และทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพและแตกขาดได้

วิธีการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง

1. ใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางทวารหนัก ช่องคลอดหรือทางปาก ควรพกถุงยางอนามัยมากกว่าหนึ่งชิ้น ให้เพียงพอต่อการใช้ วางถุงยางอนามัยในที่หยิบง่าย เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน

2. ใช้ตลอดการมีเพศสัมพันธ์ โดยใส่ถุงยางอนามัยขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ ระหว่างใช้ ถ้าลื่นหลุดหรือแตกต้องเปลี่ยนอันใหม่ทันที

3. นำถุงยางอนามัยออกจากซองอย่างระมัดระวัง โดยรีดถุงยางอนามัย ไปไว้ที่มุมใดมุมหนึ่ง ฉีกซองโดยระวังมิให้เล็บมือเกี่ยวถุงยางอนามัยขาดและอย่าคลี่ถุงยางอนามัยออกก่อนการสวมใส่

4. บีบส่วนปลายของถุงยางอนามัยเพื่อไล่ลมออก มิฉะนั้นจะทำให้ถุงยางอนามัยแตกได้

5. รูดถุงยางอนามัยให้ขอบถุงยางอนามัยที่ม้วนอยู่ด้านนอก หากอวัยวะเพศไม่ได้ขลิบปลาย ให้รูดหนังส่วนปลายก่อนการสวมใส่ ค่อยๆรูดถุงยางอนามัยเข้าหาตัวจนสุดโคนอวัยวะเพศ

6. ถ้าใช้ถุงยางอนามัยแล้วรู้สึกฝืด ให้หยดสารหล่อลื่นหรือเจลชนิดละลายในน้ำ เช่น เค-วาย เจล 1-2 หยด บริเวณด้านนอกถุงยางอนามัย จะช่วยให้รู้สึกราบรื่นขึ้น ห้ามใช้โลชั่น น้ำมันทาผิว หรือครีมทาผม กับถุงยางอนามัย เพราะผลิตภันฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม จะทำให้ถุงยางอนามัยแตก และรั่วซึมได้

7. หลังเสร็จกิจให้ดึงอวัยวะเพศออกทันทีและถอดถุงยางอนามัยออกก่อนที่อวัยวะเพศจะอ่อนตัว โดยใช้กระดาษชำระพันโคนถุงยางอนามัยก่อนที่จะถอด หากไม่มีกระดาษชำระจะต้องระวังไม่ให้มือสัมผัสกับด้านนอกของถุงยางอนามัย ควรสันนิษฐานว่าด้านนอกของถุงยางอนามัยอาจจะปนเปื้อนเชื้อโรคแล้ว

8. ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วควรห่อให้มิดชิด แล้วทิ้งในถังขยะ ห้ามใช้ซ้ำ

ทำอย่างไร… ถ้าถุงยางอนามัยแตก

1. หยุดร่วมเพศทันที แล้วถอดถุงยางอนามัยออก

2. ปัสสาวะทิ้งและล้างอวัยวะเพศด้านนอกด้วยน้ำสะอาด อย่าฉีดน้ำสวนช่องทวาร หรือช่องคลอด เพราะอาจทำให้เกิดแผลเปิด และน้ำอาจดันน้ำเชื้อและเชื้อโรคเข้าไปได้

3. สวมถุงยางอนามัยชิ้นใหม่

4. หากร่วมเพศทางทวารหนักควรปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้น แต่ห้ามถ่ายอุจจาระ เพราะอาจทำให้เกิดแผลเปิดในช่องทวารหนัก และเปิดช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้

ถุงยางอนามัยใครว่าเรื่องของผู้ชาย

อุปกรณ์คุมกำเนิดส่วนใหญ่ มุ่งไปที่ผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น ยาคุม ยาฉีด ยาฝัง หรือห่วงคุมกำเนิด ซึ่งล้วนแต่ป้องกันการท้อง แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ยกเว้นอุปกรณ์เพียงหนึ่งเดียวที่ป้องกันได้ทั้งท้องและโรค แต่ผู้หญิงกลับไม่ได้ใช้เอง คือ ถุงยางอนามัย เราควรคิดใหม่ว่าถุงยางอนามัยเป็นเรื่องของคน 2 คน ทั้ง 2 ฝ่าย สามารถเริ่มต้นชวนคุยและชวนกันใช้ถุงยางอนามัยได้

เพื่อสร้างความมั่นใจในการมีเพศสัมพันธ์ที่มีความสุข ไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ใช้ถุงยางอนามัยง่ายนิดเดียวถ้าอยากใช้

ใส่ถุงยางอนามัยให้มั่นใจ ต้องเริ่มใส่เมื่ออวัยวะเพศชายแข็งตัว ไม่ว่าจะใส่เองหรือคู่นอนใส่ให้ ก็อย่าลืมบีบถุงยางอนามัยไล่ลมแล้วรูดให้สุดโคน เมื่อหลั่งน้ำอสุจิเสร็จแล้วจึงถอดถุงยางอนามัย ข้อดีของการใช้ถุงยางอนามัย คือ ช่วยยืดเวลาการหลั่งน้ำอสุจิให้ช้าลง ทำให้มีความสุขร่วมกันนานขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการติดเชื้อ และยังมีให้เลือกหลายแบบ ข้อสำคัญอย่าลืมเตรียมถุงยางอนามัยไว้ข้างกาย เพราะเราต้องรอบคอบ เตรียมพร้อมต่อการมีเซ็กส์ที่ปลอดภัยเสมอ

ถุงยางอนามัยสองชั้น และใส่ก่อนหลั่ง…ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

วัยรุ่นและไม่รุ่นหลายคนมักใส่ถุงยางอนามัย 2 ชั้น เพื่อเพิ่มการป้องกัน แต่วิธีการนี้ไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อมากไปกว่าการใส่ถุงยางอนามัยชั้นเดียว ยิ่งไปกว่านั้น การใส่ถุงยางอนามัยสองชั้นทำให้เนื้อยางเสียดสีกันมากขึ้นและอาจทำให้รั่วซึมได้ ส่วนการใส่ถุงยางอนามัยก่อนหลั่งนั้น ก็เหมือนกับการหลั่งภายนอก เพราะมีการสอดใส่และสัมผัสน้ำหล่อลื่นของทั้งคู่ไปแล้วจึงอาจจะมีโอกาสติดเชื้อได้

Sex รอบคอบ ตอบ OK

Sex อย่างไร คือ รอบคอบ

  • ไม่พร้อมมี Sex ต้อง “Say No”
  • ถุงยางอนามัยป้องกันโรคได้ ไม่ใช้ถือว่า “ประมาท”

Sex แบบไหน ถึงจะตอบ OK

  • มีถุงยางอนามัย พร้อมใช้ ใช้ถูกวิธี ทุกครั้งที่มี Sex
  • ใช้ถุงยางอนามัย คือ รับผิดชอบตนเองและคู่

ที่มา : กรมควบคุมโรค